fbpx

มารู้จัก ปั๊มลม (Air Compressor)

มารู้จัก ปั๊มลม (Air Compressor)

ปั๊มลม หรือที่เรียกในภาษาอังกฤษว่า “Air Compressor” เป็นเครื่องมือที่มีความสำคัญในอุตสาหกรรมต่างๆ โดยมีหน้าที่หลักในการอัดลมให้มีแรงดันสูงตามที่ต้องการ. ปั๊มลมนั้นมีการนำไปใช้ประโยชน์และประยุกต์ใช้ได้หลายด้าน ทั้งในการขับเคลื่อนเครื่องจักร, การทำงานของระบบนิวเมติก, และอื่นๆ อีกมากมาย. หนึ่งในประเภทของปั๊มลมที่นิยมใช้กันคือ ปั๊มลมแบบลูกสูบ หรือ Piston Air Compressor ซึ่งเป็นประเภทที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายเนื่องจากความสามารถในการสร้างความดันหรือแรงดันที่สูง. การเลือกใช้ปั๊มลมนั้นควรพิจารณาตามความต้องการและงานที่ต้องการใช้เพื่อให้เหมาะสมและมีประสิทธิภาพสูงสุด

ปั๊มลม หรือ เครื่องอัดอากาศ (Air Compressor) เป็นเครื่องมือที่มีความสำคัญในอุตสาหกรรมและการใช้งานต่างๆ ปั๊มลมนี้สามารถแบ่งออกเป็น 6 ประเภทหลัก ดังนี้:

  1. ปั๊มลมแบบลูกสูบ (PISTON AIR COMPRESSOR)
  2. ปั๊มลมประเภทไดอะเฟรม (DIAPHARGM AIR COMPRESSOR )
  3. ปั๊มลมแบบสกรู (SCREW AIR COMPRESSOR)
  4. ปั๊มลมแบบใบพัดเลื่อน ( SLIDING VANE ROTARY AIR COMPRESSOR )
  5. ปั๊มลมแบบใบพัดหมุน ( ROOTS AIR COMPRESSOR )
  6. ปั๊มลมแบบกังหัน (RADIAL AND AXIAL FLOW AIR COMPRESSOR)

 

-ปั๊มลมแบบลูกสูบ (Piston Air Compressor) เป็นหนึ่งในประเภทของปั๊มลมที่ได้รับความนิยมและใช้งานอย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรมต่างๆ หลักการทำงานของปั๊มลมแบบนี้มีดังนี้:

  1. การขับเคลื่อนลูกสูบ: ปั๊มลมแบบลูกสูบใช้มอเตอร์ไฟฟ้าเป็นต้นกำลังในการขับเคลื่อนลูกสูบให้เกิดการเคลื่อนที่ขึ้นลงภายในกระบอกสูบ.
  2. การดูดและอัดอากาศ: เมื่อลูกสูบเคลื่อนตัวลง, จะเกิดการดูดอากาศเข้ามาภายในกระบอกสูบ และเมื่อลูกสูบเคลื่อนตัวขึ้น จะเกิดการอัดอากาศภายในกระบอกสูบ ทำให้เกิดแรงดัน
  3. การสร้างแรงดัน: การเคลื่อนที่ของลูกสูบทำให้เกิดแรงดันภายในกระบอกสูบ ซึ่งจะถูกนำไปใช้งานในระบบหรือเครื่องจักรต่างๆ ที่ต้องการแรงดันอากาศ.

ปั๊มลมแบบลูกสูบมีความเรียบง่ายและเป็นที่นิยมในการใช้งานทั่วไป เนื่องจากมีราคาที่เหมาะสม และสามารถให้แรงดันอากาศที่สูงได้ ทำให้เหมาะสมกับการใช้งานในอุตสาหกรรมต่างๆ และการใช้งานทั่วไป.

 

-ปั๊มลมประเภทไดอะเฟรม (Diaphragm Air Compressor) เป็นหนึ่งในประเภทของปั๊มลมที่มีความเฉพาะเจาะจงในการทำงาน โดยมีลักษณะเด่นดังนี้:

  1. การใช้แผ่นไดอะแฟรม: ปั๊มลมประเภทนี้ใช้แผ่นไดอะแฟรมเป็นตัวดูดและอัดอากาศ ซึ่งแตกต่างจากปั๊มลมประเภทอื่นที่ใช้ลูกสูบ
  2. การดูดและอัดอากาศ: เมื่อแผ่นไดอะแฟรมเคลื่อนที่ จะเกิดการดูดอากาศเข้ามาและเมื่อแผ่นไดอะแฟรมกลับสู่ตำแหน่งเดิม จะเกิดการอัดอากาศออกไป
  3. ไม่มีการผสมของน้ำมันหล่อลื่น: ลมอัดที่ได้จากปั๊มลมประเภทไดอะเฟรมจะไม่มีการผสมของน้ำมันหล่อลื่น เนื่องจากไม่มีชิ้นส่วนที่เป็นโลหะที่ต้องการน้ำมันเป็นตัวหล่อลื่น

ปั๊มลมประเภทไดอะเฟรมเหมาะสมสำหรับงานที่ต้องการลมอัดที่ไม่มีน้ำมัน และสามารถใช้งานได้ในสภาพแวดล้อมต่างๆ ด้วยความทนทานและประสิทธิภาพที่สูง

 

-ปั๊มลมแบบสกรู (Screw Air Compressor) เป็นหนึ่งในประเภทของเครื่องอัดลมที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย ด้วยความสามารถในการผลิตลมอัดได้มากและมีความเสถียร หลักการทำงานของปั๊มลมแบบสกรูสามารถอธิบายได้ดังนี้:

  1. การขบกันของสกรู: ปั๊มลมแบบสกรูมีหลักการทำงานด้วยการขบกันของสกรูตัวผู้และสกรูตัวเมีย ทำให้เกิดการดูดอากาศเข้ามาและอัดอากาศออกไป
  2. การผลิตลมอัด: ปั๊มลมสกรูสามารถผลิตลมอัดได้มากกว่าปั๊มลมแบบลูกสูบประมาณ 20-30% เมื่อเทียบกับมอเตอร์ขับที่มีแรงม้าเท่ากัน
  3. ความสม่ำเสมอของลมอัด: คอมเพรสเซอร์แบบสกรูออกแบบมาเพื่อคลายการไหลของอากาศอัดอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ โดยไม่มีความผันผวน

ปั๊มลมแบบสกรูเหมาะสมสำหรับงานที่ต้องการลมอัดมากและมีความต้องการในการใช้งานต่อเนื่อง ด้วยความเสถียรและประสิทธิภาพที่สูง

 

-ปั๊มลมแบบใบพัดเลื่อนหรือ Rotary Vane Air Compressor เป็นประเภทหนึ่งของเครื่องอัดลมที่มีการใช้งานมานาน โดยมีหลักการทำงานดังนี้:

  1. โครงสร้าง: ปั๊มลมประเภทนี้ประกอบด้วยโรเตอร์ทรงกระบอกที่ตั้งอยู่ภายในเครื่อง โรเตอร์นี้มีร่องที่ใส่ใบพัดเลื่อนซึ่งสามารถเลื่อนเข้า-ออกได้.
  2. การทำงาน: โรเตอร์ถูกตั้งอย่างไม่ตรงกลางในเครื่อง (eccentrically) ทำให้ในส่วนหนึ่งของโรเตอร์มีการสัมผัสกับผนังของเครื่อง ในขณะที่โรเตอร์หมุน ใบพัดเลื่อนจะถูกขับเคลื่อนออกมาโดยแรงเซนทริฟูกัล จนสัมผัสกับผนังของเครื่อง ทำให้อากาศถูกดูดเข้ามาและถูกกักกันระหว่างใบพัด เมื่อโรเตอร์หมุนต่อไป ปริมาณของอากาศที่ถูกกักกันจะลดลง ทำให้อากาศถูกอัดและเพิ่มแรงดัน.
  3. วัสดุ: ใบพัดเลื่อนมักจะทำจากวัสดุเช่น คาร์บอนไฟเบอร์ หรือกราไฟต์ และอาจมีการตัดมุมที่ขอบยาวของใบพัดเพื่อประสิทธิภาพที่ดีขึ้น.

ปั๊มลมแบบใบพัดเลื่อนมีความเสถียรและสามารถใช้งานได้ในหลายๆ แอปพลิเคชัน รวมถึงการใช้งานในอุตสาหกรรมต่างๆ

-ปั๊มลมแบบใบพัดหมุนหรือที่เรียกว่า “Roots Air Compressor” เป็นปั๊มลมแบบ positive displacement ที่ทำงานโดยการสูบลมด้วยคู่ของใบพัดที่มีลักษณะคล้ายกับเฟืองที่ถูกยืดออก ลมจะถูกกักเก็บในช่องว่างรอบ ๆ ใบพัดและถูกนำไปจากด้านรับเข้าไปยังด้านขับออก ปั๊มลมแบบนี้มีการนำไปใช้งานในเครื่องยนต์ดีเซลแบบสองจังหวะ และยังถูกนำไปใช้เป็นเครื่องยกระดับสำหรับเครื่องยนต์ Otto cycle แบบสี่จังหวะด้วย ปั๊มลมแบบนี้ได้รับการตั้งชื่อตามนักประดิษฐ์ชาวอเมริกันคือ Philander และ Francis Marion Roots ซึ่งได้รับสิทธิบัตรการออกแบบพื้นฐานในปี 1860 เพื่อใช้เป็นปั๊มลมสำหรับเตาเผาและการใช้งานอุตสาหกรรมอื่น ๆ

ปั๊มลมแบบ Roots มักถูกนำไปใช้ในการปั๊มลมที่มีปริมาณมากแต่มีความแตกต่างของความดันที่ไม่มาก ซึ่งรวมถึงการใช้งานที่มีความดันต่ำ ปั๊มลมแบบนี้ยังถูกนำไปใช้ในการวัดปริมาณการไหลของก๊าซหรือของเหลว ตัวอย่างเช่นในเครื่องวัดปริมาณก๊าซ

-ปั๊มลมแบบกังหัน หรือที่รู้จักในภาษาอังกฤษว่า “Centrifugal Compressor” และ “Axial Flow Compressor” เป็นปั๊มลมที่ใช้หลักการของการหมุนเพื่อเพิ่มแรงดันของลมหรือก๊าซ. มาดูหลักการทำงานของแต่ละประเภท:

  1. ปั๊มลมแบบกังหัน (Centrifugal Compressor)

ปั๊มลมแบบกังหันทำงานโดยใช้หลักการของการหมุนแบบกังหันเพื่อเพิ่มแรงดันของลม. ลมหรือก๊าซจะถูกดูดเข้ามาที่ศูนย์กลางของปั๊มและถูกเขย่าออกไปทางขอบโดยแรงเซนทริฟูกัล. การหมุนนี้ทำให้ลมหรือก๊าซมีแรงดันสูงขึ้น.

  1. ปั๊มลมแบบแกนยาว (Axial Flow Compressor)

ปั๊มลมแบบแกนยาวทำงานโดยใช้หลักการของการหมุนแบบแกนยาว. ลมหรือก๊าซจะถูกดูดเข้ามาและผ่านผ่านแฟนหรือใบมีดที่หมุนอยู่บนแกนยาว. การหมุนนี้ทำให้ลมหรือก๊าซมีแรงดันสูงขึ้นโดยไม่เปลี่ยนทิศทางของการไหล.

ปั๊มลมแบบกังหันและแบบแกนยาวมีการใช้งานที่หลากหลายในอุตสาหกรรมต่างๆ และมีความสำคัญอย่างมากในการเพิ่มแรงดันของลมหรือก๊าซเพื่อใช้งานในกระบวนการต่างๆ.

Agile Assets เรามีบริการเช่าซื้อเครื่องจักร ประเภทปั๊มลม (Air Compressor) หลายประเภท โดยหลักๆจะเน้นเครื่องจักรอุตสหกรรมเป็นหลัก หากลูกค้าท่านใด สนใจร่วมธุรกิจสินเชื่อกับเรา สามารถติดต่อเราได้ทันที

 

SearchGoogleAirCompressor

บทความที่เกี่ยวข้อง