“กู้ยืมหนี้นอกระบบ” หนึ่งใน “ปัญหาการเงิน” ของคนไทย ที่มักจูงใจด้วยขั้นตอนที่ไม่ยุ่งยาก อนุมัติง่าย เนื่องจากใช้หลักฐานแค่ไม่กี่อย่าง บางทีใช้แค่บัตรประชาชน แต่มักต้องแลกมาด้วยดอกเบี้ยที่สูงลิบ และส่วนใหญ่ลูกหนี้หนึ่งในนั้นคือ ผู้ประกอบการที่ต้องการขยายธุรกิจ แต่ไม่รู้จะหาเงินทุนจากไหน วันนี้เรามาดูวิธีการง่าย ๆ ที่ผู้ประกอบการควรเริ่มต้นศึกษาและเตรียมพร้อมสำหรับการหาแหล่งเงินทุนเพิ่มเติมไว้ เมื่อโอกาสมาถึงต้องพร้อมและไม่ปล่อยโอกาสหลุดลอยไปอย่างน่าเสียดาย ซึ่งแหล่งเงินทุนที่มีหลากหลายมากขึ้นในยุคปัจจุบัน
1.เพิ่มลงทุนเงินส่วนตัว
เมื่อธุรกิจดำเนินกิจการมาถึงจุดที่ให้ผลกำไรดี เจ้าของเชื่อในวิสัยทัศน์ของตัวเองและมีความมั่นใจในตัวธุรกิจมากขึ้นว่าสามารถเติบโตต่อได้ในระยะยาวและยั่งยืน เจ้าของกิจการอาจพิจารณาเพิ่มเงินลงทุนส่วนตัวเข้าสู่ธุรกิจมากขึ้นเพื่อผลตอบแทนที่เพิ่มมากขึ้น
2.ขายทรัพย์สิน
ในกรณที่เจ้าของกิจการมีทรัพย์สินอื่นทีไม่ก่อให้เกิดรายได้และยังไม่มีแผนการว่าจะจัดการอย่างไร การขายทรัพย์สินส่วนนั้นทิ้งไปเพื่อเอาเงินมาลงทุนเพิ่มในกิจการที่มีโอกาสดีกว่าและสามารถให้ผลตอบแทนที่สูงกว่า เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดที่ผู้ประกอบการทั่วโลกนิยมทำ เพราะทรัพย์สินที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้จะกลายเป็นภาระหลายประการ ทั้งการดูแลรักษารวมถึงภาระทางภาษีด้วยหากทรัพย์สินนั้นคือที่ดินว่างเปล่า
3.ขายหุ้นบางส่วนให้ เพื่อน ญาติ หรือคนรู้จัก
แม้จะดูเป็นทางเลือกที่ละเอียดอ่อนต่อความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าของกิจการกับบุคคลที่เป็นแหล่งเงินทุนแต่การขอทุนจากบุคคลเหล่านี้อาจเป็นทางเลือกที่ง่ายกว่า สำหรับผู้ประกอบการที่ไม่ต้องการเตรียมเอกสารข้อมูลมากมายหรือให้ใครมาตรวจสอบเครดิตด้วย เพราะสิ่งที่จะช่วยให้ได้มาซึ่งเงินทุนนั้นคือความน่าเชื่อถือของตัวเจ้าของกิจการนั่นเอง อย่างไรก็ตามการขอกู้ยืมเงินจากคนรู้จักนั้นยังถือว่าเป็นการกู้เงินนอกระบบอยู่ดี วันนึงหากเกิดมีปัญหาระหว่างยืมกับผู้ให้ยืม การเรียกร้องค่าเสียหายจะไม่มีกฏหมายรับรอง
การหาเงินทุนจากเพื่อน ญาติ หรือคนรู้จักนั้น ยังสามารถทำได้โดยวิธีอื่น เช่น การขายหุ้นบางส่วนให้กับคนรู้จัก ซึ่งในกรณีนี้ หากธุรกิจของเรามีศักยภาพดีและมีผลงานในอดีตที่พิสูจน์ได้ว่ามีโอกาสเติบโตสูง เจ้าของคนเดิมก็สามารถขายหุ้นได้ในราคาสูงตามมูลค่าหุ้นในขณะนั้น
4.แหล่งเงินทุนจากองค์กรอื่นที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน
ปัจจุบัน เรามักคุ้นหูกับคำว่า Angel Investor หรือ Venture Capital ทั้งสองคำนี้ คือคำเรียกขององค์กรหรือกลุ่มนักลงทุนที่มีความพร้อมในด้านเงินทุนและกำลังมองหาธุรกิจหน้าใหม่ที่มีศักยภาพแต่ยังขาดเงินทุนในการเริ่มต้นหรือกำลังเข้าสู่ช่วงขยายกิจการ
ความแตกต่างระหว่าง Angel Investor กับ Venture Capital คือAngel Investor จะมาในรูปแบบของการเข้าสนับสนุนเงินทุนพร้อมมีส่วนร่วมในการตัดสินใจต่าง ๆ มากจนอาจทำให้เจ้าของเดิมขาดความเป็นอิสระในการบริหารงาน ในขณะที่Venture Capital นั้นจะเล่นบทเป็นเพียงผู้สนับสนุนทางการเงินที่เข้ามาอุ้มธุรกิจของเราให้ประคองตัวผ่านช่วงเวลาหนึ่งไปได้ แต่แน่นอนว่า แหล่งเงินทุนทั้งสองประเภท คือนักลงทุนมืออาชีพและสิ่งที่คาดหวังสูงสุดคือผลตอบแทนจากการเข้าลงทุนนั่นเอง
5.ระดมทุน
การระดมทุน หรือ crowd funding เกิดขึ้นมาประมาณ 10 ปีแล้วและกำลังเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ ปกติแล้ว crowd fundingจะเข้าสนับสนุนโครงการหรือธุรกิจที่มีพันธกิจและจุดมุ่งหมาย เพื่อสังคมหรือต้องการเปลี่ยนแปลงบางสิ่งบางอย่างบนโลกนี้ให้ดีขึ้น หากธุรกิจของคุณกำลังทำเพื่อพันธกิจเดียวกัน โอกาสการได้รับเงินทุนจากการระดมทุนก็เป็นไปได้สูง
6.ธนาคารและสถาบันการเงิน (Non-bank)
แม้ว่าโลกจะมีรูปแบบของแหล่งเงินทุนที่หลากหลายและสะดวกสบายขึ้น การหาเงินทุนที่เป็นมาตรฐานที่สุดคือการขอสินเชื่อธุรกิจจากธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงิน (Non-bank) เพราะมีเกณฑ์การประเมินที่มีมาตรฐานชัดเจน เชื่อถือได้ เป็นธรรม รวมถึงมีทางเลือกให้เจ้าของกิจการบริหารจัดการ ปรับเปลี่ยนโครงสร้างหนี้ได้หลายแบบ รวมถึงรูปแบบของเงินกู้ก็มีให้เลือกหลากหลายกว่าเดิมมากขึ้นเช่นกัน
บริษัท อาไจล์ แอสเซ็ทส์ จำกัด เป็นสถาบันการเงินประเภท (Non-bank) ให้บริการด้านสินเชื่อ เพื่อเช่าซื้อเครื่องจักรและอุปกรณ์ประกอบ ในการดำเนินธุรกิจ ของผู้ประกอบการ ที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบธุรกิจ ให้มีเครื่องจักรและอุปกรณ์ใช้ในการทำธุรกิจ โดยไม่ต้องใช้เงินลงทุนในการจัดซื้อจำนวนมาก ท่านสามารถส่งข้อมูลใบเสนอราคาเพื่อให้ทางบริษัทฯ จัดทำข้อเสนอตัวอย่างได้ โดยส่งข้อมูลมาที่ E-mail [email protected] หรือติดต่อเบอร์ 098-283-7700
บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเผยแพร่ ดัดแปลง ทำซ้ำ โดยไม่ได้รับความยินยอมจากบริษัท
